รายได้ของรัฐบาล เป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนชอบตั้งคำถามว่า รัฐบาลเอารายได้ตรงนี้ไปใช้ทำอะไรบ้าง ? แต่อีกมุมหนึ่ง เวลาที่เราได้ยินข่าวว่ารัฐบาลอนุมัติงบโครงการโครงสร้างพื้นฐาน มาตรการช่วยเหลือหลักหมื่น-แสน-ล้านล้านบาท เคยมีความสงสัยกันมั้ยว่า รัฐบาลไปเอาเงินจากที่ไหนมาสร้าง บทความนี้พี่ทุยจะพามาหาคำตอบในแบบฉบับที่เข้าใจง่าย ๆ ให้ฟังกัน
แหล่งที่มารายได้ของรัฐบาลจะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1. รายได้ของรัฐบาล จากภาษีอากร (Tax Revenue)
“ภาษีอากร” ถือว่าเป็นรายได้หลักที่สำคัญที่สุดของรัฐบาล ซึ่งหนึ่งในรายได้ที่ถือว่ามาจากภาษีอากรก็คือ ภาษีที่เก็บจากประชาชนที่หลายคนบ่นว่าต้องจ่ายในช่วงเดือนมีนาคมของทุกปี (หรือบางคนโดนหักอยู่ในทุก ๆ เดือน) ซึ่งรายได้จากภาษีอากรแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบย่อย คือ
- ภาษีทางตรง คือ ภาษีที่จัดเก็บจากรายได้และทรัพย์สินต่าง ๆ โดยไม่สามารถผลักภาระภาษีไปที่ผู้อื่น
เช่น ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม - ภาษีทางอ้อม คือ ภาษีที่จัดเก็บจากผู้บริโภค ซึ่งเป็นการผลักภาระทั้งหมดหรือบางส่วนให้กับผู้ซื้อหรือผู้บริโภค เป็นผู้รับภาระภาษีแทนผู้ขาย
เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT 7%) ภาษีธุรกิจเฉพาะ อากรแสตมป์ ภาษีสรรพสามิต (สินค้าฟุ่มเฟือย) ภาษีศุลกากร (นำเข้า-ส่งออก)
ในส่วนนี้รัฐบาลจะเก็บภาษีได้มากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการบริหารการจัดเก็บภาษีของรัฐบาล และความสามารถในการเสียของประชาชนด้วย ดังนั้น รัฐบาลจะต้องพยายามบริหารทรัพยากร จัดสรรรายจ่ายให้ประชาชนและธุรกิจมีรายได้เพิ่มขึ้น เพื่อที่จะได้เก็บภาษีได้มากขึ้น และทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น งานนี้พูดง่ายแต่ทำยากมาก ๆ
2. รายได้ที่มิใช่ภาษีอากร (Non-Tax Revenue)
คือรายได้จากแหล่งอื่น ๆ ที่ไม่ได้มีแหล่งที่มาจากภาษีอากร หลัก ๆ แล้วเราก็จะสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่
- รายได้จากการอุดหนุนและการให้
มาจากเงินบริจาคหรือเงินให้เปล่าของประชาชน ภาคเอกชน หรือรัฐบาลประเทศอื่น เช่น การบริจาคเงินให้โรงพยาบาล โรงเรียน หรือหน่วยงานรัฐ - รายได้จากการขายสิ่งของและบริการ
เป็นรายได้ที่เกิดจากการบริหารงานของรัฐบาล เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าใบอนุญาต ค่าขายหรือเช่าทรัพย์สินของรัฐ ค่าขายของกลางที่ยึดมาจากคดีต่าง ๆ - รายได้จากการประกอบการรัฐวิสาหกิจ
มาจากการที่รัฐบาลเข้าไปลงทุนในรัฐวิสาหกิจ หรือบริษัทต่าง ๆ พอมีกำไรก็จะเอาเข้าคลังมาเป็นรายได้ของรัฐบาล - รายได้อื่น ๆ
เช่น ค่าปรับ แสตมป์อากร เงินคืนจากส่วนเหลือจ่ายปีก่อน ดอกเบี้ยเงินกู้ยืม เป็นต้น
จากข้อมูลในอดีตของประเทศไทย โครงสร้างรายได้ส่วนใหญ่จะมาจากภาษีทางอ้อมเป็นหลัก รองลงมาคือภาษีทางตรง และรายได้ที่มิใช่ภาษีอากร ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว รายได้ของรัฐบาลอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอในการลงทุนพัฒนาประเทศที่ต้องใช้เงินเป็นหลักแสนล้านหรือล้านล้านบาท อย่างที่พี่ทุยเกริ่นไปตอนแรกหรอก
เพราะในบางครั้งการลงทุนในประเทศก็ไม่ได้ใช้เงินจาก “รายได้ของรัฐบาล” เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีที่มาจากส่วนอื่น ๆ อีก เช่น เงินกู้ มองง่าย ๆ รัฐบาลก็เหมือนกับบุคคลนั่นแหละ ถ้าเราอยากซื้อบ้านราคา 3,000,000 บาท แต่เรามีรายได้แค่ 50,000 ต่อเดือน สิ่งที่เราทำ ๆ กัน คือ ไปกู้ยืมเงินจากธนาคาร รัฐบาลก็เช่นเดียวกัน เวลาที่มีรายได้ไม่เพียงพอก็ไปกู้เงินมาจากที่อื่นแทน อย่างที่เราได้เคยเห็นการกู้ยืมเงินของรัฐบาลในช่วงก่อนหน้านี้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การกู้เงินของรัฐบาล 5 แสนล้านบาท ในช่วงโควิด-19
หรือถ้าใครอยากติดตามคอนเทนต์แบบอัปเดตทุกวันเกี่ยวกับความคืบหน้าในการใช้เงินของรัฐบาล Add LINE ของ Money Buffalo ไปได้เลย คลิกที่นี่