วิธีเช็คว่าตัวไหนเป็น "หุ้นปั่น" แบบเข้าใจง่าย ๆ ภายใน 2 นาที

วิธีเช็คว่าตัวไหนเป็น “หุ้นปั่น” แบบเข้าใจง่าย ๆ ภายใน 2 นาที

2 min read  

ฉบับย่อ

  • หุ้นปั่นคือหุ้นที่ “มูลค่าของบริษัท” กับ “กำไร” ไม่วิ่งไปในทิศทางเดียวกัน ราคามักจะวิ่งขึ้นสวนทางกับกำไรที่ติดลบหรืออยู่ในระดับที่ต่ำมาก  ๆ
  • “นักลงทุนพื้นฐาน” ควรอยู่ให้ห่างจากหุ้นปั่นมากที่สุด เพราะมูลค่ากับราคาไม่สัมพันธ์กัน
  • “นักเก็งกำไร” สามารถทำกำไรจากหุ้นปั่นได้ แต่ต้องรู้จักการกำหนด “จุดขาย” ไว้เสมอ

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

มีเรื่องหนึ่งที่พี่ทุยว่าน่าสนใจเหมือนกัน หลังจากพี่ทุยลองคุยกับคนที่เริ่มเล่นหุ้นใหม่ ๆ หลายครั้งก็พบว่าหุ้นที่ถูกคัดเลือกเข้าพอร์ตจะมีแนวโน้มเป็นหุ้นตัวเล็ก บ่อยครั้งก็เลือกไปถึงกลุ่ม “หุ้นปั่น” เลยทีเดียว

แต่พี่ทุยก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่นะ ว่าทำไมนักลงทุนมือใหม่ส่วนใหญ่ถึงชอบซื้อ “หุ้นปั่น” กัน ก็เพราะว่าสามารถทำกำไรเร็วมาก สร้างความโลภให้กับนักลงทุนได้เป็นเป็นอย่างดี

แต่พี่ทุยอยากจะชวนให้ถอยออกมาก้าวหนึ่งแล้วมองที่มูลค่าของหุ้นจริง ๆ จะเห็นได้เลยว่าหุ้นปั่นเป็นสิ่งที่ไม่น่าเข้าไปยุ่งด้วยที่สุดแล้วล่ะ เมื่อคนส่วนใหญ่เข้ามาในตลาดหุ้นแล้วก็หวังว่าจะ “รวยเร็ว” แล้วผลสุดท้ายผลลัพธ์ของนักลงทุนรายย่อยแบบเรา ๆ ที่เล่นหุ้นปั่น ก็มักจะ พัง ! ในที่สุด

วิธีเช็คว่าตัวไหนเป็น "หุ้นปั่น" แบบเข้าใจง่าย ๆ ภายใน 2 นาที

วิธีสังเกต “หุ้นปั่น” เราจะรู้ได้ยังไง ?

วันนี้พี่ทุยจะเอาตัวอย่างของพร้อมวิธีสังเกตว่าหุ้นแบบไหนที่เรียกว่า “หุ้นปั่น” มาให้ทุกคนดูกัน เผื่อในอนาคตถ้าใครไปเจอหุ้นแบบนี้อีกจะได้ไม่หลงตัวเข้าไปเล่นให้ติดดอยกัน จากภาพด้านบนเป็นกราฟของหุ้นตัวหนึ่งที่ช่วงปี 2557-2558 บอกเลยว่าไม่มีนักลงทุนคนไหนไม่รู้จัก ออกข่าวทุกวัน ออกข่าวทุกสื่อ อนาคตอย่างสดใส ที่ราคาปรับขึ้นจากแถว 0.5 บาทต่อหุ้น ขึ้นไปสูงสุดที่ราคาแถว ๆ 7 บาทต่อหุ้นเลยทีเดียว

ซึ่งกว่าข่าวจะออก กว่านักลงทุนรายย่อย ๆ จะเริ่มให้ความสนใจ พี่ทุยกล้าพูดเลยว่าไม่ใช่ช่วงราคา 0.5 บาทแน่ ๆ แต่จะเป็นช่วงที่ราคาปรับขึ้นมาสักระยะแล้ว จนทุกวันนี้ราคาหุ้นเหลือเพียงหุ้นละ 0.25 – 0.5 บาทต่อหุ้นเท่านั้น แปลว่าถ้าใครไปซัดที่ยอดดอยมา แล้วไม่ได้ Cut Loss ไป ก็ทำใจได้เลยว่า เงินลงทุนก้อนนี้เราคงไม่มีทางได้เงินคืนจากหุ้นตัวนี้แล้วแน่ ๆ

วิธีเช็คว่าตัวไหนเป็น "หุ้นปั่น" แบบเข้าใจง่าย ๆ ภายใน 2 นาที

ก่อนซื้อหุ้นทุกครั้งควรอ่าน “งบการเงิน” ของบริษัทเพื่อดูที่ “รายได้” และ “กำไร” ของบริษัท

จะเห็นได้ว่าหุ้นตัวนี้ก่อนปี 2557 – 2558 ที่ราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นมากกว่า 10 เท่า “กำไรสุทธิ” ของบริษัทติดลบมาโดยตลอด ซึ่งถ้าหากเราลองเอา “จำนวนหุ้น” ที่จดทะเบียนทั้งหมดของบริษัทนี้เท่ากับ 1,615,123,566 หุ้น จำนวนคูณด้วย “ราคาหุ้น” ที่ ณ เวลานั้นเท่ากับ 7 บาท เราจะเห็นได้ว่ามูลค่าบริษัทนี้มีมูลค่ามากกว่า 11,305 ล้านบาท บริษัทระดับหมื่นล้านบาทแต่มีผลประกอบการติดลบ !

ซึ่งแน่นอนว่าช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้นเรื่อย ๆ บริษัทเหล่านี้จะมาพร้อมข่าวดี เช่น บริษัทได้ดีลการค้าดี๊ดี บริษัทมีการพลิกฟื้นเปลี่ยนธุรกิจใหม่ (Turnaround) จะส่งผลทำให้กำไรเพิ่งสูงขึ้น… แต่เมื่อเวลาผ่านไป เราจะเห็นว่าข่าวพวกนั้นไม่มีมูลความจริงอยู่เลย

อันนี้เป็นเพียงตัวอย่างที่เป็นหุ้นปั่นชัดเจนมาก แต่บางทีเราก็อาจจะเจอบริษัทที่กำไรน้อย ๆ ไม่ถึงกับติดลบแต่มูลค่าบริษัทสูง ดูแล้วไม่สัมพันธ์กัน นั้นแหละจ้า มันคือ “หุ้นปั่น” อยู่ให้ห่าง ๆ เลย ! เพราะพี่ทุยเตือนไว้ก่อนเลยว่า หุ้นปั่นลุกช้าจ่ายรอบวง

ลองเอาวิธีนี้ไปดูหุ้นที่เรากำลังสนใจกันดูนะว่า เป็นหุ้นปั่นหรือเปล่า เพราะกฎเหล็กของการลงทุนเลยก็คือ “บริษัทที่ดี” มีมูลค่าสูงจะต้องมี “กำไรที่เพิ่มสูงขึ้น” ตามด้วยเสมอ

แต่สำหรับใครที่เป็น “นักเก็งกำไร” หุ้นปั่นแบบนี้ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจและสามารถทำกำไรเหมือนกันนะ แต่ก่อนเข้าเก็งกำไรทุกครั้งอย่าลืมกำหนดด้วยว่าเราจะขายเมื่อไหร่ เพราะหุ้นปั่นแบบนี้ถ้าไม่กำหนดจุดเข้า จุดออกดี ๆ ก็มีโอกาสจะดอยกันยาว ๆ ได้เลย

ใครที่อยากจะรู้จักหุ้นรายตัว เข้าไปอ่านคอนเทนต์ สรุปหุ้น เพื่อให้รู้จักหุ้นทุกตัวในตลาดหุ้นไทยกันได้เลย

อ่านเพิ่มเติม

ดูคลิปเพิ่มเติม

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย