บัญชีมนุษย์เงินเดือน

บัญชี 4 ประเภท ที่ “มนุษย์เงินเดือน” ต้องมี !

3 min read  

ฉบับย่อ

  • การทำบัญชีเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การจัดการการเงินเป็นเรื่องง่ายขึ้น และช่วยให้เรามีระเบียบวินัยทางการเงินมากขึ้นด้วย การแบ่งบัญชีให้เหมาะสมกับชีวิตถือเป็นเรื่องที่ดี
  • การแบ่งบัญชีเป็นหมวดๆจะช่วยให้ง่ายต่อการวางแผนการเงินมากขึ้น ไม่ต้องคอยกังวลว่า เงินเก็บจะพอหรือเปล่า หรือว่าจะใช้เงินเกินไปมั้ย
  • การวางแผนทางการเงินไม่ยากอย่างที่คิด แค่แบ่งบัญชีให้เหมาะสม มีระเบียบวินัยในการใช้เงิน แค่นี้ก็ไม่ต้องกังวลกับปัญหาทางการเงินมารบกวนชีวิตกันแล้ว

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

การทำบัญชีเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การจัดการการเงินเป็นเรื่องง่ายขึ้น และช่วยให้เรามีระเบียบวินัยทางการเงินมากขึ้นด้วย การแบ่งบัญชีให้เหมาะสมกับชีวิตถือเป็นเรื่องที่ดี บทความนี้พี่ทุยจะมาพูดถึงการแบ่งบัญชีสำหรับมนุษย์เงินเดือน แค่แบ่งบัญชี วางแผนการเงิน และลงมือปฏิบัติให้ต่อเนื่อง พี่ทุยรับรองว่าทุกคนจะสามารถมีเงินเก็บเพิ่มขึ้นได้อย่างแน่นอน

1. บัญชีเงินใช้ชีวิตประจำวัน

บัญชีแบบนี้ จำเป็นที่จะต้องมีสภาพคล่องสูง สามารถใช้ได้ทันที ส่วนมากแล้วจะนิยมทำควบคู่กับบัตร ATM หรือบัตรเครดิตต่าง ๆ ในบัญชีนี้ควรมีเงินให้พอดีกับการใช้ชีวิตประจำวันในแต่ละเดือน

เมื่อได้รับเงินเดือนมา ลองคำนวนดูว่าในเดือนนึง เราจะใช้เงินไปกับค่าอาหาร ค่าเดินทาง หรือค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันกี่บาท แล้วแบ่งไว้ในบัญชีนี้ วิธีการนี้จะช่วยในเรื่องของระเบียบวินัยในการใช้เงิน ไม่ต้องกังวลเรื่องการใช้เงินเยอะเกินไปอีกด้วย

“แบ่งเงินที่จะใช้ในชีวิตประจำวันของทั้งเดือนมาไว้ในนี้ เพื่อลดปัญหาการใช้เงินเกิน หรือกังวลว่าเงินเก็บจะไม่พอ”

2. บัญชีเงินออมระยะสั้น

ก็คือ เป้าหมายที่ต้องใช้เงินในช่วง 1-5 ปีที่จะถึง ตัวอย่างเช่น การดาวน์บ้าน ดาวน์รถ ลงทุนทำธุรกิจ หรือเก็บเงินแต่งงาน ในแต่ละเป้าหมายการแบ่งเป็นแต่ละบัญชีจะทำให้ง่ายต่อการวางแผนมากขึ้น

โดยเป้าหมายระยะสั้นที่มากกว่าหนึ่งปีไม่ควรเก็บเงินไว้เฉย ๆ แต่ควรจะนำไปลงทุนในการลงทุนระยะสั้นถึงกลาง แล้วแต่ระยะเวลาของเป้าหมายแต่ละอย่าง เช่น พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ระยะสั้น เป็นต้น

ตัวอย่าง เช่น เงินซื้อบ้าน 30% เงินซื้อรถ 40% เงินแต่งงาน 70%

3. บัญชีเงินออมระยะยาว

บัญชีเงินออมในส่วนนี้ ก็คือ บัญชีที่มีเป้าหมายในอนาคตอีกไกลๆ เช่น การวางแผนเพื่อการเกษียณ เป็นต้น ซึ่งการเก็บเงินในส่วนนี้ก็จะคล้ายๆกับบัญชีเงินออมระยะสั้น นั่นก็คือ อย่าเก็บเงินไว้เฉยๆ แต่ควรนำไปลงทุน โดยบัญชีเงินออมระยะยาว จะทำให้เราลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนได้มากขึ้น รับความเสี่ยงได้มากขึ้น เช่น การลงทุนในกองทุนรวมระยะยาว กองทุน SSF RMF หรือจะเลือกซื้อหุ้นพื้นฐานดี ก็น่าสนใจนะ

4. บัญชีเพื่อการเรียนรู้ และหาประสบการณ์

บัญชีนี้มีไว้เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติมในอนาคต เป็นทักษะพื้นฐานของการหารายได้ ถ้ายิ่งมีทักษะมาก ก็จะยิ่งหารายได้ได้มากขึ้น นอกจากเพื่อหารายได้แล้ว พี่ทุยเชื่อว่าแต่ละคนจะมีความฝันที่อยากจะทำ แต่ไม่มีโอกาสได้ทำอย่างจริง ๆ จัง ๆ สักที เช่น การทำขนม เรียนถ่ายภาพ หรือเล่นดนตรีสักชิ้นอย่างจริงจัง

ส่วนเรื่องการหาประสบการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวในที่ต่าง ๆ หรือการเข้าร่วมงานสัมมนาในหัวข้อที่เราสนใจเป็นสิ่งที่ทำให้เราได้เห็นโลกที่กว้างขึ้น ได้พบเจอผู้คนใหม่ ๆ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้แหละที่จะนำมาซึ่งรายได้ในอนาคตที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพมาก

การแบ่งบัญชีเป็นหมวดๆจะช่วยให้ง่ายต่อการวางแผนการเงินมากขึ้น ไม่ต้องคอยกังวลว่า เงินเก็บจะพอหรือเปล่า หรือว่าจะใช้เงินเกินไปมั้ย อย่างถ้าบัญชีเงินใช้ในชีวิตประจำวันเหลือตอนปลายเดือน จะนำไปซื้อของที่อยากได้ หรือนำไปหยอดเงินในบัญชีเที่ยวต่างประเทศก็ไม่มีปัญหา

เป็นยังไงล่ะ การวางแผนทางการเงินไม่ยากอย่างที่คิดเลยใช่มั้ย แค่แบ่งบัญชีให้เหมาะสม มีระเบียบวินัยในการใช้เงิน แค่นี้ก็ไม่ต้องกังวลกับปัญหาทางการเงินมารบกวนชีวิตกันแล้ว

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย

Comment

Be the first one who leave the comment.

Leave a Reply