เมื่อโลกเราหมุนไป เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ
ก็เข้ามามีส่วนให้ชีวิตเราง่ายขึ้น สะดวกขึ้น สบายขึ้น เร็วขึ้น
ในอุตสาหกรรมการเงิน พี่ทุยว่าก็เหมือนกันนะ
ทุกวันนี้ก็มีการพัฒนา “สินค้าทางการเงิน” ออกมากันอย่างมากมาย
ถ้าเทียบกับเมื่อก่อนที่ไม่มีอะไรให้ลงทุนเลย
เอะอะ ๆ ก็วิ่งเข้าธนาคารเพื่อฝากเงินอย่างเดียว
แต่เดี๋ยวนี้ ก็มีทั้ง…
เงินฝาก ตั๋ว B/E กองทุนรวม
หุ้นกู้ ตราสารทุน พันธบัตร
น้ำมัน ทองคำ Forex Option
ตราสารอนุพันธ์ ฯลฯ
มีให้เราเลือกลงทุนได้หลากหลายมาก
แล้วยังไม่นับการลงทุนแปลก ๆ ที่เกิดใหม่ทุกวัน
บางอันก็จริง ยางอันก็หลอกลวง
ผู้บริโภคแบบเรา ๆ ก็เลยต้องระมัดระวังกันมากขึ้น
จริง ๆ การลงทุนไม่ได้กำหนดแค่ที่พี่ทุยพูดมานะ
ยังมีทั้งพระเครือง ที่เซียนพระดัง ๆ ก็อย่างพี่บอย ท่าพระจันทร์
ภาพงานศิลปะของศิลปินที่เราน่าจะคุ้นชื่อ ก็คือ อาจารย์เฉลิมชัย
หรือถ้าเป็นของเก่าของโบราณ ก็สามารถเก็งกำไรได้เช่นกัน
การที่เราจะเป็นเซียน “นักลงทุน” ในแต่ละวงการได้นั้น
เราจะต้องมีความรู้ความสามารถแบบเต็มเหนี่ยว ถามอะไรตอบได้หมด
แน่นอนว่าถ้าคนเหล่านี้ไม่ได้เป็นเซียน เค้าคงไม่เดินมาจนถึงจุดนี้
จุดที่มีชื่อเสียงจนคนทั้งประเทศรู้จัก
พอถึงตรงนี้ พี่ทุยอยากจะโยงมาถึงเรื่องการลงทุนของเรากันบ้าง
หลายคนน่าจะพอเดาออกว่าพี่ทุยกำลังจะพูดถึงเรื่องอะไร ?
การลงทุน ไม่ว่าเราอยากจะลงทุนในอะไรก็แล้วแต่
กฏเหล็กของ “นักลงทุน” คือห้ามลงทุนในสินค้าการเงินที่เราไม่รู้จัก
ถ้าเราไม่รู้จักสินค้านั้นดีพอ ปัญหาจะตามมาแน่ ๆ
เพราะเราจะไม่รู้จัก “ความเสี่ยง” ของสินค้าการเงินนั้น ๆ เลย
ไม่รู้ว่าเราจะกำไรขาดทุนเมื่อไหร่ ?
ไม่รู้ว่าจุดไหนเราควรขาย
ไม่รู้ว่าจุดไหนเราควรซื้อเพิ่ม
แค่เท่านี้เราก็ไม่ควรจะลงทุนในสินทรัพย์นั้นแล้ว
อย่าลงทุนเพราะเพื่อนบอก อย่าลงทุนเพราะกูรูชื่อดังเชียร์
แต่ให้ศึกษาให้ดี อ่านให้เยอะ ๆ ถามคนเก่ง ๆ ให้มาก
เมื่อได้ข้อมูลมามากพอแล้ว
ก็ให้ตัดสินใจลงทุนด้วยตัวเองเสมอ !!
เวลา “ขาดทุน” จะได้โทษตัวเอง ฮ่าๆๆ
ไม่ต้องรีบร้อน ไม่ต้องกลัวตกรถ
ตลาดการลงทุนทุกอย่างไม่หนีเราไปไหน
ถ้าเป็นหุ้นก็ต้องบอกว่า หุ้นที่วิ่งขึ้นมีทุกวัน
(หุ้นที่วิ่งลงก็มีทุกวันเช่นกัน……..)