“RS Group” ประกาศกลับมาเดินหน้าธุรกิจเพลงอีกครั้ง และรีแบรนด์องค์กรอย่างเป็นทางการ ในงาน RS Group Open House 2020 โดยจะดำเนินงานภายใต้โมเดลธุรกิจ Entertainmence หรือการรวมของ Entertainment และ Commerce เข้าด้วยกัน
ก่อนหน้านี้อุตสาหกรรมเพลงเจอปัญหาการ Disruption ทั้งอินเทอร์เน็ตและพฤติกรรมการฟังเพลงที่เปลี่ยนไปทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง RS ต้องปรับเปลี่ยน โดยมีการเพิ่มธุรกิจเครื่องสำอางแทนการพึ่งพารายได้จากธุรกิจเพลง
ในช่วงปี 2558 เป็นปีที่รายได้ของ RS เริ่มลดลงจาก 4,333.07 ล้านบาท เหลือ 3,779.51 ล้านบาท ลดลงกว่า 12.78% โดยกำไรสุทธิลดลงเหลือ 1 ใน 3 ของปีก่อน จาก 370.96 ล้านบาท เหลือ 121.63 ล้านบาท ลดลง 67.21% ซึ่งเป็นสัญญาณที่ทำให้ RS เริ่มทำการปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจ
ในช่วงระยะเวลาใกล้เคียงกัน RS ได้เปิดตัว SHOP1781 โฮมชอปปิ้งออนไลน์โดย 1781 นั้นเป็นเลข Call Center เพื่อให้ลูกค้าคุ้นเคยและจำง่ายก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น RS Mall ในปัจจุบัน
ปี 2559 RS เปิดตัวธุรกิจ Life Star เป็นครั้งแรกที่ RS ก้าวออกจากธุรกิจที่ถนัดอย่างธุรกิจสื่อ เนื่องจากพฤติกรรมการบริโภคสื่อของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป การหวังพึ่งพารายได้จากสื่อที่เป็นรายได้หลักเหมือนก่อนหน้านี้จึงมีความเสี่ยง
ปี 2560 RS พลิกฟื้นกลับมากำไรหลังจากปี 2559 ขาดทุนถึง -102.15 ล้านบาท โดยสามารถสร้างกำไรในปี 2560 ได้สูงถึง 332.86 ล้านบาทเลยทีเดียว
ปี 2561 RS ได้มีการปรับเปลี่ยนบริษัทให้เป็น MPC (Multi-Platform Commerce) ทั้งบริหารธุรกิจสื่อและขยายช่องทางจัดจำหน่ายไปพร้อม ๆ กัน
ปี 2562 RS ได้เปลี่ยนหมวดหมู่ในตลาดหลักทรัพย์จาก “สื่อและสิ่งพิมพ์” เป็น “พาณิชย์” เพื่อให้สอดคล้องกับรายได้และธุรกิจที่ทำอยู่ที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น
และในปี 2563 นี้ RS ได้ปรับแบรนด์ใหม่สู่การเป็น RS Group และมุ่งทำธุรกิจแบบ Entertainmerce (Entertainment + Commerce) มีการเปลี่ยนชื่อ SHOP1781 เป็น RS Mall และประกาศกลับมาลุยธุรกิจเพลง
“RS Group” ดำเนินธุรกิจอะไรอยู่บ้างในปัจจุบัน
ปัจจุบันแบ่งออกเป็นธุรกิจเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ได้แก่
1. Commerce
- RS Mall – เว็บไซต์ขายของออนไลน์ ที่มีการสนับสนุนจากสื่อของ RS โดยสินค้ากว่า 60% เป็นสินค้าจาก Life Star
- Life Star – สินค้าความงาม เครื่องสำอาง และสินค้าดูแลสุขภาพ โดยมีศิลปินร่วมกับสินค้าต่าง ๆ เป็นอีกตัวช่วยในการโปรโมท
2. Entertainment
- สถานีโทรทัศน์ช่อง 8 – ช่องโทรทัศน์ระบบดิจิทัลที่มียอดผู้ติดตามใน Youtube สูงถึง 11.4 ล้านคน
- Coolism – ธุรกิจวิทยุที่มียอดผู้ฟังเกิน 2 ล้านคนในช่วงที่ผ่านมา
- RS Music – ธุรกิจเพลงที่เตรียมปัดฝุ่นนำค่ายเพลงดังอย่าง Kamikaze กลับมา
หลังจากปรับเปลี่ยนธุรกิจของ RS ธุรกิจ Commerce ก็มีรายได้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องจนได้กลายเป็นรายได้หลักตั้งแต่ปี 2561 ในขณะที่ธุรกิจ Media เริ่มมีรายได้ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง จนในปี 2562 สัดส่วนของรายได้จาก Media ลดลงเหลือเพียง 30% จากที่ปี 2560 นั้นรายได้จาก Media มีมูลค่าเกือบครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมด
จริง ๆ แล้วคนไทยนั้นฟังเพลงกันทุกยุคสมัยอยู่แล้ว แต่ก็มีช่วงนึงที่อินเทอร์เน็ตเข้ามามีผลต่อธุรกิจเพลง ส่งผลให้สิ่งที่เคยทำรายได้ให้บริษัทอย่างเทปหรือซีดีนั้นไม่สามารถสร้างรายได้ให้บริษัทได้เหมือนสมัยก่อน
ค่ายเพลงขนาดเล็กและขนาดกลางอาศัยความได้เปรียบที่สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว กลับมาสร้างรายได้และช่วงชิงพื้นที่สื่อบนอินเทอร์เน็ต และการทำการตลาดบนออนไลน์ตามยุคสมัยของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปได้
การสร้างรายได้ของเพลงจากช่องทางใหม่ ๆ อย่าง ธุรกิจสตรีมมิ่งเพลง หรือการสร้างรายได้จาก Youtube ทำให้ศิลปินสามารถสร้างผลงานด้วยตนเองได้มากขึ้น ลดการพึ่งพาจากค่ายเพลงใหญ่ ๆ
พี่ทุยต้องบอกเลยว่า RS เป็นตำนานของเด็กยุค 90’s อย่างล่าสุดก็มีการจัดคอนเสิร์ตรวมนักร้อง Kamikaze รุ่นเก่ากลับมารวมตัวกันอีกครั้งและก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดี จึงอาจเป็นจุดนึงที่ทำให้ RS Music ตัดสินใจกลับมาดันธุรกิจนี้ให้กลับมาอีกครั้ง
Comment