บทสรุปอ่านเข้าใจง่ายๆ – “ทรัมป์” ได้ แล้วไงต่อ ?

“Donald Trump” ชื่อนี่พี่ทุยว่าตอนนี้หลายๆคนคงรู้จักเค้ากันแล้วแน่ๆ เพราะตอนนี้เค้าได้กลายมาเป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกาที่ได้คะแนนเสียงแซงหน้า “Hillary Clinton” ชนะไปอย่างขาดลอยก็ว่าได้ เรียกได้ว่าเหนือความคาดหมายกันแบบสุดๆ และหักปากกาเซียนวิเคราะห์แทบทุกสำนัก

คำถามต่อมาคือ “ทรัมป์” ได้แล้วไงต่อ ?? โลกเราจะเป็นอย่างไร ?? แล้วประเทศไทยจะกระทบอะไรบ้าง ?? นโยบายที่ทรัมป์จะใช้จะเป็นยังไง ?? ถ้าเรื่องนโยบายที่ทรัมป์ใช้หาเสียงพี่ทุยเห็นคนอื่นวิเคราะห์ไว้เยอะแล้วเหมือนกัน ลองอ่านตามที่อื่นได้ตามสบาย

แล้วพี่ทุยก็เชื่อว่าไม่น่าจะทำได้ทุกนโยบายที่ใช้หาเสียงจริงๆ เพราะอย่างตอนโอบาม่าหาเสียงก็ไม่สามารถทำได้ทุกนโยบาย แล้วบางนโยบายที่หาเสียงไว้ กลับมีผลลัพธ์ออกไปอีกทางเลยก็มี ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ปกติมากๆ

พี่ทุยคิดว่าไม่ว่าใครจะชนะการเลือกตั้งก็ตาม “ผล” ก็ไม่ต่างกัน (ถ้าใครได้ติดตามพี่ทุยก็จะพอรู้บ้างว่าพี่ทุยมองแบบนี้มาตลอด) เพราะพี่ทุยยังคงยืนยันที่ความเห็นเดิมตามบทความอันนี้พี่ที่ทุยเคยเขียนเอาไว้ ถ้าใครยังไม่เคยอ่านพี่ทุยแนะนำให้อ่านมากๆเลยนะ กับบทความ เตรียมรับมือวิกฤติเศรษฐกิจที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์

เพราะสภาวะเศรษฐกิจตอนนี้ มองไม่ออกจริงๆว่าจะผลักดันไปได้ยังไงบ้าง นโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ทำกันทั้งโลกจากที่พี่ทุยดูมันกระตุ้นอะไรไม่ขึ้นเลย ทั้งนโยบายการคลังและการเงิน ดังนั้น พี่ทุยแนะนำให้จัดพอร์ตแบบ “รับความเสี่ยงให้ดี” ถ้าพูดแบบเห็นแก่ตัวหน่อยก็คือ เราตัวเล็กๆบนโลกใบนี้ เราทำอะไรมากมายไม่ได้ แต่เราสามารถเอาตัวรอดจากวิกฤตได้ นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด

ถ้าอยากรู้ว่าตอนนี้แย่แค่ไหนให้ลองไปถามคนที่เป็น “เจ้าของกิจการ” โดยเฉพาะกิจการที่ต้องส่งออกว่าเค้าเจออะไร ยอดขายเป็นยังไง ? แต่ถ้าใครเป็น “มนุษย์เงินเดือน” อาจจะยังไม่ค่อยรู้สึกเพราะไม่ว่าบริษัทจะกำไรหรือขาดทุน ก็ได้เงินเดือนเท่าเดิม ที่หายๆไปอาจจะเป็นโบนัส แล้วถ้าจะรู้ตัวแรงๆอีกทีก็โดนเชิญออกเลยมากกว่า

เคยตั้งคำถามกันมั้ยว่าถ้า “รายได้” เราหายไปจะทำอย่างไร ? จะอยู่ได้กี่เดือน ? จะเอาตัวรอดได้ไหม ? ถ้าจะมองโลกในแง่ดี พี่ทุยว่ามองให้ถูกเรื่อง เรื่องการวางแผนการเงินต้องมองโลกแง่ร้ายที่สุดไว้ด้วยเสมอเค้าถึงเรียกการวางแผนการเงิน

ดังนั้น สิ่งที่เราต้องทำหลังจาก “ทรัมป์” ได้เป็นประธานาธิบดี (จริงๆแล้วใครจะได้เป็น เราก็ควรจะต้องทำเหมือนกัน) ก็คือ …

1. ไป “ลดหนี้” ให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะถ้ารายได้เราหาย แล้ว “ดอกเบี้ย” ปรับขึ้นอีก ซวย 2 เด้งเลยทีเดียว (ลองไปดูตลาดตราสารหนี้ที่อเมริกาดูจะเข้าใจว่าทำไมพี่ทุยพูดถึง “ดอกเบี้ย”)

2. เพิ่มเงินสำรองให้เยอะขึ้นอย่างน้อย 12 เดือนของค่าใช้จ่าย และไปเก็บในรูปทองคำ เพราะเวลาที่เศรษฐกิจไม่ชัดเจนมึนๆงงๆ เงินจะไปวิ่งที่ทองคำ เพราะทองคำจะช่วยลดความเสี่ยงเรื่องค่าเงินได้

สุดท้ายที่พี่ทุยตกใจก็คือ “ต้นแบบประชาธิปไตย” ของโลกอย่างอเมริกา (ที่ประเทศไทยยึดเป็นต้นแบบนี่แหละ) เกิดการไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง มีการออกมาประท้วงและเผาทำลายข้าวของกัน เกิดการไม่เคารพเสียงส่วนใหญ่ แค่นี้ก็น่าจะสะท้อนอะไรได้หลายๆอย่างกันเลยทีเดียวเพราะพื้นฐานของประชาธิปไตยคือการเคารพซึ่งกันและกันต่างหากล่ะ

ปล. อ้าวเฮ้ย !! ตลาดหุ้นไม่เห็นลงอย่างเค้าว่าเลยเลยนิน่าาาา !! …… ไหนว่าตลาดหุ้นไม่ชอบทรัมป์ !!