ไป “เที่ยวกับแฟน” อย่างไรให้สนุก แถมมีเงินออมพร้อมแต่งงาน

การไป “เที่ยวกับแฟน” ช่วงวัยแถวๆ 26-30 ปี ถือว่าเป็นปัญหาเหมือนกันนะ แล้วปัญหานึงที่พี่ทุยพบเจอโดยเฉพาะสำหรับผู้ชาย นั่นก็คือ เที่ยวกับแฟนก็ต้องเที่ยว แถมยังต้องเก็บเงินไปขอแฟนแต่งงานอีก พี่ทุยว่าอันนี้เป็นปัญหาโลกแตกเลยแหละ ได้แต่คิดว่าผู้ชายเกือบทุกคนก็น่าจะต้องเจอหรือเคยเจอปัญหานี้อยู่แน่นอน

พี่ทุยคิดวิธีนึงออกที่มันดีและสามารถใช้ได้จริง คือ เวลาที่เราไปเที่ยวกัน และต้องจ่ายค่าอะไรก็แล้วแต่ ให้เอาเงินจำนวนเดียวกันนี้ออมเพิ่มเข้าไปด้วย !! อาจจะใช้วิธีเปิดบัญชีร่วมก็ได้เหมือนกัน

วิธีที่พี่ทุยทำ คือ เวลาที่ไปกินบุฟเฟ่ต์คนละ 500 บาท สองคนก็รวมเป็น 1,000 บาท พี่ทุยใช้วิธีการโอนเงินเข้าไปอีกบัญชี 1,000 บาท หรือไปดูหนังคนละ 200 บาท ก็โอนเข้าบัญชี เก็บไว้อีก 400 บาท พอสิ้นเดือนเท่านั้นแหละ มีความตกใจกับตัวเลขเหมือนกันนะ (ฮ่า) เพราะหมดไปเยอะกับพวกค่ากินค่าเที่ยว ถ้าเราอยากมีเงินออมมากขึ้น ศัตรูที่น่ากลัวที่สุดก็คือรายจ่าย ถ้าเราควบคุมรายจ่ายได้ยังไงก็มีเงินออมเหลือเพิ่มขึ้นแน่นอน

รวมถึงการไปปาร์ตี้เย็นวันศุกร์ ที่หลายๆคู่ชอบไปกัน ไม่ว่าจะไปร้านอาหารดีๆ Roof Top ที่ร้านดังๆ เราสามารถไปได้เพื่อเติมสีสันให้กับชีวิตคู่ แต่เราก็ควรจะไปปาร์ตี้แบบไม่ให้กระทบเงินออมด้วยเช่นกัน

ส่วนตัวพี่ทุยมองว่าการเก็บเงินแต่งงานไม่ใช่การเก็บเงินเพื่อเป็นสินสอดแล้วล่ะสมัยนี้ แต่เป็นการสร้างความมั่นคงสำหรับชีวิตคู่มากกว่า ถ้าจะสร้างครอบครัวด้วยกันสิ่งหนึ่งที่ต้องคุยกันมากที่สุดก็คือเรื่องเงิน เพราะชีวิตหลายๆคู่ที่ไปไม่รอด ก็เพราะเรื่องเงินทั้งมีเงินมากไปและมีเงินไม่พอ ก็เป็นปัญหาได้เช่นกัน

ผู้ชายมีหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัว ความรักความรับผิดชอบมาด้วยกันเสมอ อย่าเอาแต่พูดว่ารัก เพราะคำว่ารักผู้ชายคนไหนก็พูดได้ แต่สิ่งที่จะทำให้เราแตกต่างก็คือการกระทำเท่านั้น

ส่วนผู้หญิงที่คิดว่าเราไม่ต้องทำอะไร ลองคิดดูว่าครอบครัวที่มีหัวหน้าครอบครัวที่ดี แล้วถ้ามีแฟนที่คอยสนับสนุนที่ดีด้วย พี่ทุยว่าน่าจะเป็นครอบครัวที่ดีและมีความสุขมากกว่าครอบครัวที่ให้คนใดคนนึงแบกอยู่คนเดียว ครอบครัว “เรา” ต้องช่วยกันสร้างต้องช่วยกันประคับประคองน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

ส่วนถ้าที่บ้านใครช่วยซัพพอร์ตในเรื่องการแต่งงานก็ถือว่าโชคดีไป (จริงๆแล้วค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆยังจะต้องมีการออมเงินเพื่อไปฮันนีมูนหรือไปเที่ยวต่างประเทศอีกนะ) แต่อย่างไรก็ตามนั่นคือชีวิตคู่ ชีวิตครอบครัวของเราเอง เราไม่สามารถพึ่งคนอื่นได้ตลอด สิ่งที่เราควรทำนั่นก็คือพึ่งพาตัวเองและสร้างชีวิตคู่ให้มั่นคงด้วยความสามารถของเราเองจึงจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด