กิน "บุฟเฟ่ต์" อย่างไรให้คุ้มที่สุด ?

กิน “บุฟเฟ่ต์” อย่างไรให้คุ้มที่สุด ?

3 min read  

ฉบับย่อ

  • การกินบุฟเฟ่ต์ก็เหมือนการจ่ายแบบหารรวม ไม่ใช่การหารรวมทั้งโต๊ะ แต่เป็นการหารรวมทั้งร้าน คนที่กินได้เยอะ คือ คนที่ได้กำไร ส่วนคนที่กินได้น้อย ก็เหมือนจะต้องจ่ายในส่วนของคนที่กินเยอะด้วย
  • การกินให้ได้มากที่สุด ไม่ใช่ว่าจะคุ้มเสมอไป ในทางเศรษฐศาสตร์บอกไว้ว่า ความสุขในการกินอาหารจะเพิ่มขึ้นอย่างลดลงเรื่อยๆตามปริมาณที่กิน และจะเริ่มติดลบเมื่อเลยคำว่าอิ่มไปแล้ว
  • เราสามารถกินบุฟเฟ่ต์ให้เป็นความสุขในชีวิตได้ แต่ต้องไม่ใช้เงินเกินตัวจนปลายเดือนไม่มีอะไรกิน

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

ชีวิตคนเมืองอย่างเรา การกิน “บุฟเฟ่ต์” ถือเป็นหนึ่งในการพักผ่อนของใครหลายๆคน โดยเฉพาะช่วงต้นเดือน เงินเดือนเพิ่งออก นี่ต้องรวมแก๊งค์ไปถล่มร้านกันซักหน่อยแล้ว

“ทำงานเหนื่อยหนักมาทั้งวัน เย็นนี้ไปกินบุฟเฟ่ต์ดีกว่า” 

การกินบุฟเฟ่ต์ถือเป็นวัฒนธรรมการกินอาหารรูปแบบหนึ่งในสังคมยุคปัจจุบันที่ได้รับความนิยมอย่างมาก แต่เดิมคำว่า “บุฟเฟ่ต์” หมายถึงการจัดวางอาหารไว้ให้ผู้ที่ร่วมงานสามารถเดินไปตักอาหารทานได้ตามใจชอบ อารยธรรมการกินอาหารแบบนี้เริ่มต้นมาจากแถบยุโรปตอนบนในกลุ่มของชาวไวกิ้ง

ในปัจจุบันคำว่าบุฟเฟ่ต์ได้ขยายความถึง การขายอาหารในรูปแบบที่ผู้ขายจัดทำอาหารไว้ แล้วผู้ที่เป็นลูกค้าก็เข้ามาหยิบอาหารเหล่านั้นด้วยตัวเอง และนิยมใช้การคิดราคาแบบเหมาจ่ายเป็นหัว และแน่นอนเมื่อมีการคิดราคาแบบเหมาจ่ายแล้ว ผู้ที่มาทานอาหารก็จะคำนึงถึงความคุ้มเข้าไปด้วย

“กินให้ได้เยอะๆ จะได้คุ้มๆ”

จริงๆ แล้ววิธีการกินบุฟเฟ่ต์ให้ได้เยอะๆเนี้ยก็มีด้วยกันหลายวิธี พี่ทุยเคยเจอวิธีการกินให้ได้เยอะๆ มาหลายวิธีอยู่ ทั้งวิธีการกินแป้ง หรือพวกคาร์โบไฮเดรตสักครึ่งชั่วโมง ก่อนเริ่มกินจะทำให้ร่างกายมีพลังงานในการย่อยอาหารที่ทานเข้าไป ทำให้ทานได้เยอะขึ้น หรือ การกินช้าๆ เพราะการกินที่รวดเร็วไปจะทำให้จุกแล้วกินได้น้อย

ถ้าใครอยากรู้ว่า เมื่อไหร่เราถึงจะกินคุ้ม พี่ทุยแนะนำให้ลองเอาไปคิดกันเล่นๆกันดู สมมติว่าเนื้อหมูที่ผ่านการหมักให้อร่อยด้วยสูตรลับแล้ว มีต้นทุนประมาณกิโลกรัมละ 200 บาท ถ้าบุฟเฟ่ต์ราคาอยู่ที่ 399 บาท เราก็จะต้องกิน เนื้อหมูให้ได้ 2 กิโลกรัม

นี่พี่ทุยคิดแค่ค่าอาหารนะ ยังไม่รวม ค่าไฟ ค่าที่ ค่าล้างกระทะ และต้นทุนอีกมากมายในการเปิดร้าน ถ้าทุกคนสามารถกินได้ 2 กิโลกรัม รับรองเลยว่าร้านเจ๊งแน่นอน !! แต่ที่ร้านบุฟเฟ่ต์ต่างๆ นั้นยังตั้งอยู่ยงคงกระพันได้นั้น ก็เป็นเพราะว่า ค่าเฉลี่ยของคนเราจะอิ่มเมื่อกินอาหารได้ 500 กรัม เท่ากับว่า มื้อนึงคนทั่วๆไป ก็กินได้ไม่เยอะมากขนาดนั้นหรอก

จริงอยู่ที่ว่ากระเพาะของคนเราสามารถยืดขยายได้มากกว่า 30 เท่า แต่เอาเข้าจริงๆ ยืดได้แค่ 4-5 เท่าก็ไม่ไหวแล้ว ยกเว้นแต่ว่าร่างกายได้รับการฝึกฝนมาอย่างพวกนักกินจุ ก็จะสามารถยืดกระเพาะออกได้เยอะกว่าคนทั่วไป เพราะฉะนั้นถ้าใครสามารถกินได้เยอะกว่ามาตรฐาน ก็จะเป็นคนที่ได้กำไร

เรามาลองมองในมุมมองของร้านอาหารกันบ้าง จะพบว่าราคาที่ตั้งมานั้นจะต้องไม่ทำให้ร้านขาดทุน นั่นคือร้านจะต้องนำค่าเฉลี่ยของปริมาณการกินในแต่ละคนมาหาร แล้วออกมาเป็นต้นทุนต่อหัวและบวกกำไรอีกนิดหน่อย

ดังนั้น การกินบุฟเฟ่ต์ก็เหมือนการจ่ายแบบหารรวม ไม่ใช่การหารรวมทั้งโต๊ะ แต่เป็นการหารรวมทั้งร้าน คนที่กินได้เยอะก็คือคนที่กำไร ส่วนคนที่กินได้น้อย ก็เหมือนจะต้องจ่ายให้ในส่วนคนที่กินเยอะด้วย

แต่การกิน “บุฟเฟ่ต์” ให้ได้เยอะที่สุดนั้นคุ้มจริงหรือ ?

พี่ทุยว่า เวลาเราทานอาหารสักมื้อเนี้ย นอกจากจุดประสงค์หลักคือการอิ่มท้องแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องการก็คือความสุข การกินให้เยอะที่สุดอาจจะเป็นความสุขของกระเป๋าสตางค์ แต่หลายคนคงเคยรู้สึกถึงความจุกหลังจากการกินเยอะเกินไป ว่ามันทรมานและไม่มีความสุขเอาเสียเลย

ในทางเศรษฐศาสตร์ ได้อธิบายเรื่องของความสุขในการกินไว้ว่า

ความสุขในการกินอาหารจะมากที่สุดในหน่วยแรก หรือคำแรก และจะค่อยๆ ลดลงในคำที่สองที่สาม

และก็จะลดลงไปเรื่อยๆจนเท่ากับ 0 เมื่อเราอิ่ม แปลว่าเมื่อหลังจากเราอิ่ม เราจะไม่ได้รับความสุขในการกินเพิ่มขึ้นเลย แต่กลับจะลดลงด้วยซ้ำ

ถ้าลองนึกถึงตอนที่กินอิ่มมากๆแล้วพี่ทุยก็เห็นด้วยนะ อิ่มจนปวดท้อง อิ่มจนตัวงอ อิ่มจนทำอะไรต่อไม่ได้ บางคนถึงขั้นตอนอาเจียนออกมาเพื่อให้สบายท้อง ถ้าถึงขั้นนั้นแล้วมันจะไปมีความสุขได้ไงล่ะ จริงมั้ย

เรามาพูดถึงเรื่องความคุ้มค่าของการกินบุฟเฟ่ต์ในมุมมองทางด้านการเงินบ้างดีกว่า

บุฟเฟ่ต์แต่ละแบบก็มีหลายระดับราคา ถ้าในหมวดของการปิ้งย่าง อยากกินทะเล หรือ อยากได้เนื้อชั้นดีจากญี่ปุ่น ก็ต้องบวกเงินกันเข้าไป จากราคาเริ่มต้น ก็อาจจะเพิ่มไปแตะหลักพันได้โดยไม่รู้ตัว

การกินบุฟเฟ่ต์ให้คุ้มในมุมมองทางการเงิน ถ้าจะให้พูดง่ายๆ ก็คงจะเป็นเรื่องของราคาที่เราพอใจจะจ่าย แล้วไม่ลำบากในปลายเดือน และเพื่อป้องกันการหมดตัวจากบุฟเฟ่ต์ ควรกำหนดงบสำหรับความสุขส่วนนี้ให้ชัดเจนก่อน ว่าเดือนนี้จะใช้เท่าไหร่ เมื่อกำหนดงบเรียบร้อยแล้ว จะเปย์บุฟเฟ่ต์แบบไหนกี่มื้อ ก็สบายใจหายห่วง

พี่ทุยก็เริ่มหิวแล้วเหมือนกัน ขอตัวไปกินบุฟเฟ่ต์ก่อนดีกว่า.. อ๊ะ!! ไม่ได้สิ เดือนนี้กินไปเยอะมากแล้ว แถมน้ำหนักก็ขึ้นเอาๆ เอาเป็นว่าพี่ทุยขอตัวไปออกกำลังกายแทนละกันนะ

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย