เปรียบเทียบ "กองทุน" แบบ Active และ Passive ที่ทุกคนควรรู้ !

เปรียบเทียบ “กองทุน” แบบ Active และ Passive ที่ทุกคนควรรู้ !

3 min read  

ฉบับย่อ

  • ไม่ว่าจะเป็น “กองทุน” แบบ Active หรือ Passive ต่างก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าเราชอบแบบไหนความต้องการเราเป็นแบบไหนต่างหาก
  • ตำราของอเมริกาจะแนะนำให้ลงทุนกองทุนแบบ Passive มากกว่า Active เพราะตลาดหุ้นของอเมริกามีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ และหุ้นเยอะ การที่ผู้จัดการกองทุนจะทำผลตอบแทนให้ชนะตลาดตลอดเวลาในระยะยาวเป็น เรื่องที่ยากมากๆ ดังนั้นการลงทุนที่ดีคือ “เลียนแบบ”

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

สำหรับบทความนี้เรามาพูดถึง “ความแตกต่างของ กองทุนแบบ Active และ กองทุนแบบ Passive” กันสักหน่อยดีกว่าเริ่มจาก “กองทุนแบบ Active” กันก่อนเลย “กองทุน” แบบนี้ ผู้บริหารกองทุนต้องพยายามเอาชนะมาตรฐาน (Benchmark) ที่ตั้งไว้เช่น SET100 หรือ SET50 เป็นต้น พยายามเล่นหุ้นให้ “ชนะ” ดัชนีพวกนี้แหละ หรือพูดง่ายๆว่า ทำยังไงก็ได้ให้ “ชนะตลาด”

ส่วนพวก “กองทุนแบบ Passive” อันนี้เข้าใจง่ายมั่กๆ ผู้บริหารกองทุนไม่ต้องทำอะไรมาก แค่ลงทุนตาม Benchmark เลยงานหมูๆอู๊ดๆ ส่วนใหญ่จะใช้แค่โปรแกรม หรือ Robot คอยปรับพอร์ต แต่ให้ความเป็นจริงก็อาจจะมีความต่างระหว่างตัว Benchmark อยู่บ้างอาจจะเพราะค่าธรรมเนียม รวมไปถึงการจัดสัดส่วนหุ้นในพอร์ตเป็นไปได้ยากมากที่จะเหมือนกับ Benchmark 100%

แล้วถ้าถามต่อว่า “กองทุน” แบบ Active หรือ Passive ดีกว่าล่ะ ?

พี่ทุยบอกได้เลยว่าคำนี้ตอบได้ค่อนข้างยากนะ พี่ทุยขอตอบตามความคิดของพี่ทุยโดยอ้างอิงจากตำราต่างประเทศที่พี่ทุยเคยอ่านโดยเฉพาะของอเมริกา สำหรับข้อดี-ข้อเสีย พี่ทุยไม่พูดถึงละกันนะ เพราะว่าลองเสิช Google เจอเพียบอยู่แล้ว ลองเปิดอากู๋อานได้ให้เต็มปอดเลย

ตำราของอเมริกาจะแนะนำให้ลงทุนกองทุนแบบ Passive มากกว่า Active เพราะตลาดหุ้นของอเมริกามีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ และหุ้นเยอะ การที่ผู้จัดการกองทุนจะทำผลตอบแทนให้ชนะตลาดตลอดเวลา ในระยะยาวเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ดังนั้นการลงทุนที่ดีคือ “เลียนแบบ” ตลาดไปเลยง่ายที่สุดเพราะเชื่อว่ายังไงในระยะยาวตลาดหุ้นก็ต้องปรับตัวขึ้นไปเรื่อยๆอยู่แล้ว

แต่พอมามองที่ ตลาดหุ้นของไทย ตลาดยังถือว่า “เล็กมาก” เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอเมริกา ทำให้การหาหุ้นยังสามารถทำได้ไม่ยากมากเพราะหุ้นทั้งตลาดไทยตอนนี้ยังแค่หลักร้อยตัวเท่านั้นเอง แล้วพอดูผลตอบแทนย้อนหลัง ผลตอบแทนของกอง Active ค่อนข้างดีกว่า (เอากองที่มีผลตอบแทนอันดับต้นๆมาเปรียบเทียบ)

ถ้าให้ตอบตอนนี้คงตอบว่ากอง Active ยังดีกว่าสำหรับตลาดหุ้นไทย แต่ต้องเลือกกองทุนให้เป็นด้วยนะ ไม่ใช่ปิดตาแล้วจิ้มเลือก แบบนี้พี่ทุยจะจิ้มตาให้ ฮึ่ย !!

แต่ยังไงพี่ทุยก็แนะนำว่า ซื้อมันทั้ง 2 แบบนั้นแหละ ฮ่าๆๆ “การกระจายการลงทุน” เป็นสิ่งที่ควรทำอับดับแรกๆ และกองทุนทั้งสองแบบก็ถือว่าน่าสะสมเก็บไว้ไม่ใช่เล่น อิอิ ในระยะยาวพี่ทุยเชื่อว่า ตลาดหุ้นไทยยังไปอีกไกล

การเก็บสะสมไว้ในระยะยาว พี่ทุยว่าสบายนะ แต่กองแบบ Active ต้องอาศัยผู้จัดการกองทุน ซึ่งในระยะยาวไม่มีใครบอกได้ว่าจะทำได้ดีตลอดหรือเปล่า ดังนั้นเก็บทั้ง 2 แบบเลยดีที่สุดดดดดดด ลองจัดสัดส่วนที่เหมาะสมกันดูนะ

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย