ช่วงนี้ไม่ว่าจะดูนิวส์ฟีด Facebook กี่รอบ พี่ทุยก็เห็นมีแต่คนพูดถึงเรื่องที่ กลต. อนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติยืมหุ้นมาขายชอร์ตผ่าน NVDR ได้ และเริ่มใช้ไปแล้วในวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา
ก่อนที่จะเล่าต่อไป เรามาทำความรู้จักพระเอกในวันนี้ของเรากันก่อนดีกว่า
NVDR คืออะไร ?
NVDR คือ ใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ของหุ้นไทย ซึ่งออกโดยบริษัทย่อยที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในชื่อว่า “บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด” (Thai NVDR Company Limited) จัดตั้งขึ้นเพื่อให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทยได้ แต่ กลต. ก็อยู่ #ทีมนักลงทุนไทยอยู่ เพราะการถือหุ้นผ่าน NVDR ก็มีข้อจำกัดหลายข้อ เพื่อป้องกันไม่ให้ต่างชาติเข้ามามีสิทธิ์มีเสียงในกิจการของไทยมากเกินไป เช่น จะไม่มีสิทธิ์ออกเสียงในที่ประชุมผู้ถือหุ้น แต่จะได้รับปันผลและซื้อหุ้นเพิ่มทุนได้เหมือนนักลงทุนไทยที่ถือหุ้นตัวนั้นๆทุกอย่างนะ
ถ้าคนไทยอยากซื้อหุ้นแบบ NVDR ได้หรือเปล่า ?
ตอบเสียงดังฟังชัดเลยว่า ได้ ! แต่ถ้าเป็นคนไทยจะไม่ได้รับเงินปันผลนะ ต้องเป็นต่างชาติเท่านั้น ไปย้อมผมให้เป็นสีทองเนี่ย เค้าไม่นับนะ (ฮ่า)
เมื่อเรารู้จัก NVDR แล้ว คงพอนึกภาพออกว่าตัวเลขการซื้อและขายของ NVDR สำคัญยังไง เพราะนักลงทุนที่ทำให้ราคาหุ้นขยับขึ้นลงในตลาดบ้านเราทุกวันนี้มี 4 ประเภทหลักๆ คือ สถาบัน (กอง) ต่างชาติ (หรั่ง) นักลงทุนสถาบัน (ปอป) และรายย่อย (เม่า) ฉะนั้นการไปสมัครเป็นแฟนคลับและจับตามองการกระทำของ ‘รายใหญ่’ อย่างต่างชาติก็จะมีประโยชน์หลายอย่าง งั้นมาดูกันซิว่า ในช่วงปีที่ผ่านมาต่างชาติเปย์และเทหุ้นตัวไหนหนักๆบ้างนะ
10 หุ้นที่ NVDR ซื้อสะสมสุทธิมากที่สุดในรอบ 1 ปี
ข้อมูลจาก Stockradars ณ วันที่ 3 เมษายน 2562
เปย์ไปแล้ว มาดูฝั่งเทกันบ้างดีกว่า
10 หุ้นที่ NVDR ขายสะสมสุทธิมากที่สุดในรอบ 1 ปี
ข้อมูลจาก Stockradars ณ วันที่ 3 เมษายน 2562
สังเกตได้ว่าหุ้นที่ต่างชาตินิยมเข้าซื้ิอหรือเทขายล้วนแล้วแต่เป็นหุ้นใหญ่หรือที่เรียกกันว่า ‘หุ้นบิ๊กแค็ป (Big Cap)’ ซึ่งการเคลื่อนไหวขึ้นลงของเค้าเหล่านี้จะมีผลต่อดัชนีของ SET มาก เพราะดัชนีตลาดหลักทรัพย์คำนวณแบบถ่วงน้ำหนัก พี่ทุยขออธิบายง่ายๆว่า หุ้นที่มีมูลค่าการตลาด (Market Capitalization) มาก ก็จะส่งผลกระทบต่อตลาดมาก หลายคนคงเคยเห็นเวลาที่ดัชนีของตลาดหลักทรัพย์ลดลง เมื่อตลาดปิดทำการซื้อขายจะมีการสรุปผลออกมาว่าหุ้นตัวไหนมีผลทางลบต่อตลาดและมีผลกี่ % ตอนดัชนีเพิ่มขึ้นก็มีสรุปผลอย่างนี้เช่นกัน
ซึ่งหุ้นที่ส่งผลกระทบในทางบวกและลบมักเป็นหุ้นใหญ่ทั้งนั้น ดัชนีให้ความสำคัญต่อเค้ามาก เหมือนคนสำคัญของประเทศที่ไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไรสักนิดสักหน่อยก็จะเป็นที่จับตามองและส่งผลกระทบในวงกว้าง
อยากรู้ว่าหุ้นที่ซื้อ มียอดสะสมของต่างชาติ (NVDR) มากน้อยแค่ไหน ดูยังไงดี ?
พี่ทุยขอแนะนำการดูผ่านแอปพลิเคชัน e-fin mobile เลย เพราะเป็นแอปพลิเคชันที่เราสามารถใช้งานได้ฟรี โบรคเกอร์ต่างๆที่เราเปิดพอร์ตมีไว้บริการอยู่แล้ว ลองไปเล่นดูนะ พี่ทุยแนะนำ 4 ขั้นตอนไปเลย ดังนี้
- เข้าที่ Graph ปกติ
- กดที่เมนู ‘indy’ ตรงด้านขวาบนตามรูป
- เลือกคำว่า ‘NVDR (VOL)’
- หน้าจอจะแสดงออกมาอย่างนี้ เราสามารถดูยอดสะสมของต่างชาติได้จากอินดิเคเตอร์นี้ ถ้าเป็น e-fin.stock pick up ที่ทำการติดตั้งในคอมพิวเตอร์ก็สามารถเพิ่มอินดิเคเตอร์ให้แสดงยอดสะสม NVDR แบบนี้ได้เหมือนกันนะ
การที่ กลต.อนุญาตให้ต่างชาติยืมหุ้นจาก NVDR มาขายชอร์ตได้ จะมีผลยังไง ?
การขายชอร์ต (Short Selling) คือ การเล่นเก็งกำไรขาลงโดยเกิดจากการที่เรามองว่าหุ้นตัวนั้นๆมีแนวโน้มลง ก็จะทำการยืมหุ้นผ่านบริการ SBL จากโบรคเกอร์มาขายโดยที่เราเสียดอกเบี้ยค่ายืม และเมื่อราคาลง เราก็ต้องซื้อหุ้นไปคืนตามจำนวนที่ยืมมาขายไงล่ะ ซึ่งถ้าราคาหุ้นตัวนั้นลงตามที่คิดไว้จริงๆก็จะซื้อได้ในราคาที่ถูกกว่าตอนยืมมาขายและเราก็จะได้ส่วนต่างราคา แต่ถ้าเรื่องไปในทางตรงกันข้าม ก็ต้องซื้อหุ้นไปคืนเค้าในราคาที่แพงกว่าเดิม ซึ่งคนขาดทุนก็คือเราอีกนั่นแหละ
จริงๆ แล้ว การขายชอร์ตนี้คล้ายกับการเล่น Put DW มากเลยทีเดียว
จากข้อมูลพี่ทุยพบว่า ดอกเบี้ยที่นักลงทุนไทยต้องจ่ายเมื่อยืมหุ้นมาขายชอร์ตผ่าน SBL อยู่ที่ 5.5% ต่อปี ในขณะที่สถาบันต่างชาติจ่ายดอกเบี้ยแพงแค่ 1.5-2% เท่านั้น ต้นทุนที่ถูกกว่าหลายเปอร์เซ็นต์น่าจะมีผลทำให้ต่างชาติรู้สึกสบายใจที่จะยืมหุ้นไทยมาขายชอร์ตผ่าน NVDR มากขึ้น ซึ่งวัตถุประสงค์เริ่มแรกของการขายชอร์ต คือการเพิ่มสภาพคล่องให้กับตลาด แต่ถ้ามีสภาพคล่องมากเกินไปก็จะมีผลให้หุ้นมีการเเกว่งตัวมากหรือมีความผันผวนมากขึ้นนั่นเอง
และหุ้นที่สามารถยืมมาขายชอร์ตได้ ก็เป็นกลุ่มหุ้นที่อยู่ใน SET100 ซึ่งเป็นหุ้นของกิจการขนาดใหญ่ที่มีผลต่อดัชนีของตลาดหลักทรัพย์ด้วยสิ ฉะนั้นเมื่อตลาดมีแนวโน้มลง กฎใหม่นี้อาจเหมือนการชี้โพรงให้กระรอก ซ้ำเติมตลาดมากขึ้นกว่าเดิม แต่อย่าเพิ่งตกใจไปนะจ๊ะ ยังมีแสงสว่างปลายอุโมงค์รอเราอยู่
สำหรับนักลงทุนระยะสั้นเน้นเก็งกำไร
พี่ทุยแนะนำให้เทรดตามกราฟ กำหนดและทำตามจุดตัดขาดทุนที่วางเอาไว้อย่างเคร่งครัด การที่ตลาดมีสภาพคล่องมากขึ้นอย่างนี้เป็นโอกาสของนักเก็งกำไร ที่หากมีสถานะถูกทางจะอิ่มแปร้เลยทีเดียว เดี๋ยวนี้มีผลิตภัณฑ์หลายอย่างที่สามารถเล่นได้ทั้งขาขึ้นและขาลงด้วย เช่น TFEX, DW, SSF (SINGLE STOCK) หรือ OPTION
สำหรับนักลงทุนระยะยาวแนววีไอ
นักลงทุนกลุ่มนี้เน้นคุณค่าและเข้าลงทุนในกิจการที่ราคาตลาดยังต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงอยู่แล้ว ฉะนั้นกฎที่ กลต. ออกมาใหม่ถึงแม้จะสร้างความผันผวน ก็เป็นเพียงความผันผวนระยะสั้น ที่ถ้าไม่ทำให้พื้นฐานกิจการเปลี่ยนก็ไม่ควรต้องให้ความสำคัญอะไร ถ้าอยากสร้างกำไรมากขึ้น นักลงทุนอาจจะเปิดบัญชี SBL ไว้ให้คนอื่นยืมหุ้นก็ได้ รับดอกเบี้ยไปสบายๆเลย
ก่อนจากกันไปในบทความนี้ พี่ทุยขอย้ำว่าถ้าต้องการเก็งกำไรจากหุ้นใหญ่เหล่านี้ การดูยอดสะสมของต่างชาติเป็นปัจจัยหนึ่งเท่านั้น หลายครั้งหลายหนที่การเดินตามเสียงส่วนใหญ่ไม่ได้พาไปถึงจุดหมายที่สวยงาม จะเห็นได้ว่าหุ้นหลายตัวที่มียอด NVDR เข้าสะสม ราคาก็ไม่ได้พุ่งขึ้นแรงเลย สิ่งที่เราต้องสนใจมากกว่าคือวัตถุประสงค์ของเรา ว่าจะเก็งกำไรหรือลงทุน โตแล้วจะเคาะซื้ออะไรก็ได้ก็จริงนะ แต่ซื้อแล้วมีกำไรจะดีกว่า จริงมั้ย ?
Comment