คนจำนวนไม่น้อยที่นำเงินเข้ามาลงทุนกับตลาดในรูปแบบของการเก็งกำไร หรืออาจจะนิยามตัวเองว่าเป็น เทรดเดอร์ ใน “การเทรดหุ้น” โดยมุ่งทำกำไรจากการ ซื้อถูกขายแพง แต่การก้าวขึ้นไปเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ จำเป็นจะต้องเข้าใจถึงธรรมชาติและความเป็นจริงของมันด้วย ซึ่งพี่ทุยคิดว่าหากเราเข้าใจผิดเกี่ยวกับสิ่งที่เรากำลังทำ ผลลัพธ์ที่ออกมาก็อาจจะไม่เป็นไปอย่างที่เราหวัง
1. การเทรดคือการทำกำไรให้ได้อย่างรวดเร็ว ?
แต่ความเป็นจริงแล้วสิ่งสำคัญสำหรับ “การเทรดหุ้น” คือ การเรียนรู้ที่จะรักษาเงินทุนเอาไว้ให้ได้ก่อน ความเข้าใจผิดเรื่องการทำกำไรให้ได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเทรดเดอร์หน้าใหม่ซึ่งเข้ามาในตลาดด้วยเหตุผลนี้ และเริ่มต้นการเทรดด้วยความคาดหวังว่าจะรวยอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการเรียนรู้เรื่องของการบริหารความเสี่ยง และเมื่อเราเข้าใจถึงความสำคัญของการรักษาเงินทุน และเรียนรู้ที่จะเทรดเฉพาะเมื่อเห็นโอกาสซึ่งลงล็อกกับกลยุทธ์ของเรา เมื่อนั้นเราจะเริ่มต้นทำเงินแทนที่จะเสียเงินไปให้กับเทรดเดอร์รายอื่น ๆ
2. จำเป็นจะต้องฉลาดถึงจะเป็นเทรดเดอร์ที่ดี ?
ในความเป็นจริงแล้ว ถึงแม้เราจะมีไอคิวสูงถึง 180 ก็จะไม่ช่วยอะไร หากเรายังเทรดเกินตัว ไม่ควบคุมความเสี่ยง และไม่มีวินัย เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ คือ คนที่เข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงความสามารถในการควบคุมการกระทำของตัวเอง ซึ่งเป็นการหาจุดสมดุลระหว่างสัญชาตญาณ และความสามารถในการวิเคราะห์ โดยสัญชาตญาณจะช่วยสร้างไอเดียในการเทรด ขณะที่ความสามารถในการวิเคราะห์จะช่วยตรวจสอบการเทรดให้อยู่ในจุดที่เหมาะสม
3. ต้องมีเงินลงทุนสูงถึงจะมีโอกาสทำกำไรจากตลาด ?
แต่สำหรับเทรดเดอร์ที่เก่งสามารถทำกำไรโดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดของเงินลงทุนในความเป็นจริง แม้ว่ามีเงินเท่าไหร่ในพอร์ต ก็สามารถจะสูญเสียเงินทั้งหมดไปได้อย่างรวดเร็วเท่า ๆ กับพอร์ตขนาดเล็ก เพราะปัจจัยสำคัญอย่าง กลยุทธ์ ทักษะ และทัศนคติ คือสิ่งจำเป็นต่อการประสบความสำเร็จทั้งกับพอร์ตขนาดเล็กและพอร์ตขนาดใหญ่ อย่าเพิ่งรีบเพิ่มเงินลงทุนจนกว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างมั่นคง
4. ต้องรู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นกับตลาดถึงจะมีกำไร ?
แต่จริง ๆ แล้วต้องเข้าใจว่า เราไม่สามารถที่จะรู้ได้อย่างแน่นอนว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น การระลึกอยู่เสมอว่า “ทุก ๆ การเทรด สามารถลงเอยด้วยการขาดทุนได้” ไม่ว่าจะใช้กลยุทธ์อะไรในการเทรด โอกาสที่จะเกิดสัญญาณหลอกย่อมมีอยู่เสมอ เพราะฉะนั้น วินัยที่จะทำตามกลยุทธ์ของตัวเองทั้งการซื้อและการขาย เป็นสิ่งสำคัญ
5. เทรดชนะมากกว่าแพ้ถึงจะรวย ?
เราอาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับ ‘อัตราส่วนระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทน (Risk Reward Ratio)’ กันมาบ้าง และหากเข้าใจมันก็จะรู้ว่าเราไม่จำเป็นจะต้องเทรดชนะเสมอไปถึงจะสร้างผลตอบแทนจำนวนมากได้
สมมุติว่า เรากำหนดอัตราส่วนระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทนที่ 1 ต่อ 3 สำหรับทุก ๆ การเทรด หมายความว่า เราจะยอมเสี่ยง 1 บาท เพื่อคาดหวังกำไร 3 บาท เพราะฉะนั้น เราจำเป็นที่จะต้องเทรดชนะเพียง 25% เพื่อให้ถึงจุดคุ้มทุน (ไม่รวมค่าธรรมเนียมการซื้อขาย) และหากเราเทรดชนะ 27% ก็แปลว่าเราเริ่มทำกำไรได้แล้ว
Comment