มาตรการ “ชิม ช้อป ใช้” เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวโดยการแจกเงินผ่าน Application เป็นจำนวนเงิน 1,000 บาทให้กับผู้ที่ลงทะเบียน (กระเป๋าตังช่อง 1) สามารถนำไปใช้ตามร้านค้าต่าง ๆ ที่อยู่ในระบบได้ และยังได้รับเงิน Cash Back 15% (กระเป๋าตังช่อง 2) จากการใช้จ่ายผ่านระบบนี้อีกด้วย โดยยอดสูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท/คน หรือได้รับเงินคืนสูงสุด 4,500 บาท/คน
“ชิม ช้อป ใช้” ใครใช้ได้และใช้ที่ไหนได้บ้าง?
สำหรับคนที่มีสิทธิได้รับเงิน 1,000 บาทนี้จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้
- มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
- ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน)
- มีบัตรประชาชน
- รับสิทธิจำนวน 10 ล้านคนเท่านั้น
โดยเงิน 1,000 บาท จะสามารถใช้ได้กับร้านค้าที่ลงทะเบียนและมี Application “ถุงเงิน” หรือมีเครื่อง EDC ที่เชื่อมต่อกับธนาคารกรุงไทย(ร้านธงฟ้าประชารัฐ) โดยประเภทร้านและค่าใช้จ่ายที่สามารถนำมาใช้สิทธิได้แก่
- ค่าอาหาร เครื่องดื่ม
- ค่าซื้อสินค้าท้องถิ่น สินค้า OTOP
- สินค้าวิสาหกิจชุมชน
- ร้านธงฟ้าประชารัฐ
- ที่พัก โฮมสเตย์ สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (ตามรายชื่อของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา)
แล้วเราจะลงทะเบียนได้อย่างไร?
ขั้นตอนการลงทะเบียนมี 4 ขั้นตอนโดย
- สามารถลงทะเบียนได้ผ่านเว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่ 24 กันยายน 2562 – 15 พฤศจิกายน 2562 (หรือจนกว่าสิทธิจะหมด)
- รอรับ SMS ยืนยันการลงทะเบียน โดยจะได้รับ SMS ภายใน 3 วันทำการ
- Download Application “เป๋าตัง” โดยจะใช้แอพนี้ในการรับสิทธิ
- ใช้บริการในจังหวัดที่ลงทะเบียนไว้กับร้านที่ร่วมรายการ ภายใน 14 วันหลังได้รับ SMS ในการลงทะเบียน
ผู้ประกอบการสามารถเข้าร่วมได้อย่างไร?
ผู้ประกอบการที่ตรงตามเงื่อนไขสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ภายใน 28 สิงหาคม 2562 – 20 กันยายน 2562 โดยสามารถสมัครได้ที่
ในส่วนของภูมิภาค – สมัครได้ที่สำนักงานคลังจังหวัด ทั่วประเทศ ทุกวัน
ส่วนกลาง (กทม.) – สมัครได้กรมบัญชีกลาง (ห้องกำปั่นเงิน)
และยังมีจุดรับสมัครนอกสถานที่ของกรมบัญชีกลาง
- Big C สาขาการเคหะ พระราม 2
- Big C สาขาอ่อนนุช
- Big C สาขาสุขาภิบาล 3
- Big C สาขา แจ้งวัฒนะ
- Central ปิ่นเกล้า
- Central พระราม 3
- Central Grand Rama 9
- Central ลาดพร้าว
- Central Eastville
- Makro สาขาจรัญสนิทวงศ์
โดยต้องนำเอกสารเหล่านี้ไปด้วย
- หนังสือรับรองการประกอบกิจหรือใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการ จากหน่วยราชการ
- บัญชีฝากธนาคารกรุงไทย
- Smart Phone เพื่อติดตั้ง Application ถุงเงิน
แบบฟอร์มการสมัคร ดาวน์โหลดได้ คลิกที่นี่
ข้อจำกัดของมาตรการนี้
มาตราการ “ชิม ช้อป ใช้” นี้ แม้จะจัดทำขึ้นมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการใช้จ่ายที่มากขึ้น แต่ก็ยังมีกำแพงและอุปสรรคหลาย ๆ อย่างที่เป็นเรื่องยากสำหรับประชาชน และอาจทำให้ไม่ได้รับผลการกระตุ้นในทุกภาคส่วนและได้ผลลัพธ์ดีอย่างที่คาดหวัง
อย่างแรกเลยคือการที่จะทำให้เกิดการซื้อทั้งหมดได้นั้นต้องผ่าน Application “เป๋าตัง”(สำหรับประชาชนผู้ใช้จ่าย) และ “ถุงเงิน”(สำหรับผู้ประกอบการ) นั่นหมายความว่าทั้งผู้ประกอบการและผู้จับจ่ายใช้สอยต้องมี Application และลงทะเบียน นั่นจึงเป็นความยุ่งยากที่เกิดขึ้นและมาพร้อมด้วยต้นทุนในการจัดการ
ในด้านของประชาชนผู้ใช้งานอาจจะง่ายหน่อยเพราะการลงทะเบียนนั้นขั้นตอนไม่ซับซ้อนมากและสามารถใช้งานได้เลย แต่สำหรับประชาชนที่กลุ่มรากหญ้าที่ไม่ได้ใช้ Smart Phone ก็อาจจะพลาดสิทธินี้ไปทันที และผู้ใหญ่ที่ไม่ได้ตามเทคโนโลยี การใช้ Application เหล่านี้ก็อาจเป็นเรื่องใหม่และยากสำหรับคนเหล่านี้ในด้านผู้ประกอบการก็เป็นโอกาสที่ดีในการได้รับลูกค้าและเพิ่มยอดขายแต่ก็ต้องทำการลงทะเบียนให้ทันในช่วงเวลาที่กำหนด ส่วนใครที่ไม่สะดวกหรือไม่ทราบข่าวก็อาจจะเสียสิทธิประโยชน์เหล่านี้ไป ซึ่งเมื่อประชาชนสนใจตั้งใจที่มาใช้สิทธิ 1,000 บาท หากไปพบร้านที่ไม่สามารถใช้สิทธิได้ร้านนั้นก็อาจจะต้องเสียลูกค้าไปด้วยเช่นกัน
ของแถมที่รัฐอาจได้รับจากมาตรการนี้
นอกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวแล้ว เป้าหมายอีกอย่างนึงของมาตรการนี้อาจเป็นการนำคนไทยเข้าสู่ Cashless Society หรือสังคมเงินสดมากขึ้น และเป็นการผลักดันให้คนหลาย ๆ กลุ่มศึกษาและเข้าถึงเทคโนโลยีให้มากขึ้น อาจทำให้คนหลาย ๆ คนที่ไม่เคยใช้จ่ายผ่านออนไลน์ได้ลองทำธุรกรรมออนไลน์เป็นครั้งแรก
และในด้านผู้ประกอบการก็ยังเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการต่าง ๆ ที่อยู่ในระบบที่จดทะเบียนถูกต้องอยู่แล้ว เพราะในปัจจุบันยังมีร้านค้าที่อยู่นอกระบบอยู่เป็นจำนวนมาก เพื่อให้เกิดประโยชน์ทั้งสองฝ่าย การสนับสนุนจากมาตรการนี้จึงได้ทั้งช่วยประชาชนและผู้ประกอบการ และยังกระตุ้นให้ร้านค้าต่าง ๆ เข้าระบบจดทะเบียนประกอบกิจการอย่างถูกต้องอีกด้วย
Comment