วิเคราะห์การเปิดตัว iPhone 11 และการบุก 2 ธุรกิจใหม่

วิเคราะห์การเปิดตัว iPhone 11 และการบุก 2 ธุรกิจใหม่

4 min read  

ฉบับย่อ

  • เปิดตัว iPhone 11 ในงาน Apple Special Event พร้อม Gadgets และ Services ใหม่ๆ
  • Apple ถูกวิพากษ์วิจารย์เรื่องความตื่นเต้นของงานเปิดตัว ทำให้หลายๆคนมองว่า iPhone ยังตามหลาย ๆ ค่ายด้วยราคาที่แพงกว่า
  • จุดชูโรงที่ iPhone แซง SmartPhone ทุกค่าย คือชิปประมวลผลที่ Apple เคลมว่าเร็วที่สุด
  • Apple เปิดตัว Apple Arcade บุกตลาดร่วมกับ 3 ค่ายเกมดัง Capcom, Konami และ Annapurna ด้วยราคา $4.99 /เดือน
  • Apple เปิดตัว Apple TV+ พร้อมชู Original Content ของตัวเอง ด้วยราคา $4.99 /เดือน หวังแย่งส่วนแบ่งในตลาด Streaming

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

เปิดตัวอย่างเป็นทางการกับ iPhone 11 ในงาน Apple Special Event วันที่ 10 กันยายน 2019 นอกจาก iPhone 11 แล้วยังมี Gadgets ต่างๆ รามถึงการเปิดตัว Apple Arcade และ Apple TV+ อีกด้วย ที่จะบุกตลาด Gaming และ Streaming ที่กำลังร้อนแรงอยู่ พร้อมประกาศราคาและวันที่จำหน่ายเป็นที่เรียบร้อย

ในส่วนของ iPhone 11 นั้น ได้มีการเปิดตัว 3 รุ่นด้วยกัน ได้แก่

  • iPhone 11 $699
  • iPhone 11 Pro $999
  • iPhone 11 Pro Max $1099

วิเคราะห์การเปิดตัว iPhone 11 และการบุก 2 ธุรกิจใหม่

 

พร้อมด้วยสีใหม่ที่ออกมาอย่าง Midnight Green โดย iPhone 11 จะเริ่มเปิดให้ Pre-Order ในประเทศกลุ่มแรกช่วงวันศุกร์ ที่ 13 กันยายน 2019 และเริ่มวางจำหน่ายจริงวันที่ 20 กันยายน 2019 ส่วนในไทยยังไม่มีกำหนดการชัดเจนอาจจะต้องรอถึงช่วงเดือนตุลาคม หรือพฤศจิกายนเลยทีเดียว

iPhone 11 ชูโรงด้วยกล้องและ Features ใหม่

ตัว iPhone 11 นั้นเป็นการอัพเกรดขึ้นมาจากตัว iPhone XR มีกล้อง 2 ตัวด้วยกัน โดยเป็นกล้อง Wide (1X) และ Ultra Wide (0.5X) ส่วน iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max จะประกอบไปด้วยก้อง 3 ตัว Wide (1X), Ultra wide (0.5X) และ Telephoto (2X) เพิ่มความหลากหลายของมุมการถ่ายมากขึ้น

และอีกสิ่งที่เพิ่มเข้ามาก็คือกล้องหน้าที่รองรับการถ่ายแบบ 4K ได้ และมาพร้อมกับความสามารถทีเพิ่มขึ้นอย่าง Slowfie ที่สามารถใช้กล้องหน้าในการถ่าย Slow Motion และด้วยคุณภาพของกล้องหน้าที่มากขึ้นยังช่วยให้การปลดล็อค Face ID แม่นยำและรวดเร็วมากขึ้นอีกด้วย

ตัวกล้องเองก็ต่างเพิ่มฟังก์ชั่น และฟีเจอร์ใหม่ ๆ เข้ามาอย่าง Deep Fusion ที่กล้องจะทำการถ่ายภาพทั้งหมด 9 ภาพ ก่อนและหลังถ่ายภาพอย่างละ 4 ภาพไว้ เพื่อนำภาพทั้งหมดประมวลผลร่วมกับระบบ AI เพื่อคำนวณและสร้างภาพที่มีความละเอียดที่สุดขึ้นมา ทำให้สามารถเก็บรายละเอียดแม้ผ่านการขยายภาพ และสุดท้าย Night Mode ที่ทำให้การถ่ายภาพกลางคืนที่ก่อนหน้านี้ยังเป็นจุดอ่อนตามค่ายอื่นๆอยู่ ตอนนี้ก็สามารถถ่ายภาพที่มีแสงน้อยได้อย่างง่ายดายมากขึ้น

ความตื่นตาตื่นใจที่หายไปของ Apple

เป็นสิ่งที่ถูกวิพากษ์วิจารย์เป็นอย่างมากสำหรับ Apple กับความตื่นเต้นตื่นตาตื่นใจของ Apple ที่หายไป เพราะในอดีตนั้นทุก ๆ ปีที่มีการเปิดตัว Apple จะมีลูกเล่นและสิ่งใหม่ๆที่สร้างความเปลี่ยนแปลงและทำให้คนทั่วโลกตื่นตกใจ และเป็นเหตุผลที่ต่อให้ราคา iPhone จะแพงฉีกแบรนด์คู่แข่งก็ยังขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

แต่ในปัจจุบันหลายๆแบรนด์เริ่มมีการงัดไม้เด็ดของตัวเองออกมาชิงตลาด และแข่งขันกันสูงมากทั้งด้านเทคโนโลยีและราคา และด้วย iPhone รุ่นใหม่ในแต่ละปีนั้นไม่ได้มีอะไรใหม่เป็นพิเศษจนทำให้คนรู้สึกว้าวตื่นเต้นกับความเปลี่ยนแปลง แต่ภาพรวมกลับคล้ายเป็นการอัพเดทและวิ่งตามเทคโนโลยีคู่แข่ง ทำให้ลูกค้าในหลายๆประเทศเริ่มย้ายค่ายเปลี่ยนใจไปใช้แบรนด์อื่น

ส่วน iPhone 11 นี้ จุดเด่นที่แซงทุกค่ายเลยคงจะหนีไม่พ้นเรื่องชิปประมวลผล Apple A13 Bionic ซึ่งเป็นเทคโนโลยีของ Apple ที่เดียว ด้วยขนาดชิปที่เล็กแต่สามารถประมวลผลได้รวดเร็วกว่าค่ายอื่นและยังประหยัดพลังงาน จน Apple เคลมว่าเป็น Smartphone ที่เร็วและแรงที่สุดในปัจจุบัน ใครที่เป็นสายเกมส์น่าจะแฮปปี้กันกับตรงนี้

แต่ความตลกร้ายคือลูกค้าส่วนใหญ่ที่ซื้อ Smartphone นั้นเฟ้นหา Features และประสบการณ์การใช้งานเป็นหลัก ทำให้หลาย ๆ ครั้งแม้เทคโนโลยีชิปนี้ของ Apple จะเป็นที่ 1 แต่ก็ถูกลูกค้าหลาย ๆ คนมองข้าม

Apple Arcade กับ 3 ค่ายเกมชั้นนำ

คงจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเกมมือถือ Mobile Gaming นั้น ในปัจจุบันตลาดเกมนั้นเติบโตเป็นอย่างมาก และตลาดเกมมือถือก็มีส่วนแบ่งสูงกว่า 50% ของตลาดเกมทั้งหมด โดยในปี 2018 ที่ผ่านมารายได้จากเกมมือถือทั่วโลกนั้นมีตัวเลขสูงถึง 63.2 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1,932.78 ล้านบาท (1USD : 30.58 THB) 

สำหรับ Apple Arcade นั้นจะเป็นการรวมกันของเกมชั้นนำต่าง ๆ จากผู้สร้างชื่อดังที่จับมือกับ Apple ไม่ว่าจะเป็นบริษัทเกมในตำนานอย่าง Capcom บริษัท Konami และบริษัท Annapurna ที่มีทีมงานผลิตเกมโดยเฉพาะ โดยที่ผู้ใช้งานไม่ต้องเสียตังซื้อแต่ละเกมเหมือนในอดีต แต่จะเป็นการจ่ายเงินเหมาเป็นรายเดือนแทน 

โดยจะเริ่มเปิดให้บริการให้กับประเทศกลุ่มแรกในช่วงวันที่ 19 กันยายน 2019 ในราคา 4.99 เหรียญต่อเดือน หรือประมาณ 152.6 บาท/เดือน (1USD : 30.58 THB) โดยจะมีให้ทดลองใช้งานฟรี 1 เดือน

Apple TV+ ตีตลาด Streaming หนัง

วิเคราะห์การเปิดตัว iPhone 11 และการบุก 2 ธุรกิจใหม่


จาก Lifestyle และ Technology ที่เปลี่ยนไปทำให้ช่วงหลายปีที่ผ่านมาตลาด Streaming หนังประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และหลายๆคนคงจะหนีไม่พ้น Netflix ที่นอกจากจะประสบความสำเร็จทั่วโลกแล้ว คนไทยเราก็ติดกันงอมแงมเช่นกัน

เบื้องหลังความสำเร็จของ Netflix เองนั้นคงจะหนีไม่พ้น Original Content หรือการทำหนังซีรี่ย์เป็นของตัวเอง ทำให้ลูกค้าหรือผู้ชมนอกจากจะเลือกชมหนังที่ตัวเองอยากดูได้ ก็ยังเสพติดซีรี่ย์และหนังของตัว Netflix เองที่มีเนื้อหาเข้มข้นและน่าติดตาม ทำให้อัตราการเปลี่ยนใจหรือย้ายค่ายของลูกค้านั้นน้อยมาก

ทำให้ยักษ์ใหญ่อย่าง Disney เองก็ลงมาในตลาดเองเลยด้วยชื่อ Disney+ ที่นอกจากจะมีหนัง นิยาย และอนิเมชั่นของ Disney เองที่เป็นจุดขายอยู่แล้ว ยังได้ Marvel มาร่วมมืออีก ทำให้มี Series และหนังภาคต่อของ Marvel ที่ทุกคนรอคอยอยู่

ทาง Apple เองก็มาตีตลาดเริ่มทำ Original Content เป็นของตัวเองเช่นกัน ผ่านชื่อ Apple TV+ โดยจะเริ่มใช้งานจริง 1 พฤศจิกายน 2019 ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 4.99 เหรียญสหรัฐ/เดือน และราคาไทยที่ 99 บาทต่อเดือน (Netflix 8.99 เหรียญสหรัฐต่อเดือน 280 บาทต่อเดือน) 

และเพื่อเป็นการโปรโมทตัว Apple TV+ ผู้ที่ซื้อผลิตภัณฑ์ของ Apple อย่าง iPhone, iPad, Apple TV, iPod Touch รวมถึง Mac จะได้รับบริการ Apple TV+ ฟรี 1 ปี และรองรับ Family Sharing ได้สูงสุด 6 คน

ด้วยกลยุทธ์ราคาที่ถูกกว่าบวกกับโปรโมทตัว Apple TV+ ผ่านแฟนและลูกค้าของ Apple ต้องมาดูกันว่า Apple TV+ จะสามารถแย่งส่วนแบ่งในตลาดได้มากน้อยขนาดไหน เพราะปีหน้าธุรกิจ Streaming หนัง และ Original Content จะดุเดือดเลยทีเดียว เพราะต่างค่ายก็ต่างงัดไม้เด็ดของตัวเองออกมา

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย

Comment

Be the first one who leave the comment.

Leave a Reply